ลงทะเบียนเงินผู้สูงอายุ 2566 เงินผู้สูงอายุไม่เข้าติดต่อที่ไหนบ้างต้องทำอย่างไร

ใครบ้างที่ได้รับเงินผู้สูงอายุ

เงินผู้สูงอายุ หรือเบี้ยผู้สูงอายุสำหรับคนที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ หรือเกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน 2505 แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ได้รับเงินสวัสดิการจากหน่วยงานราชการ และรัฐวิสาหกิจ จะไม่ได้รับเงินผู้สูงอายุ ในส่วนของการลงทะเบียนเพื่อรับเงินนั้น ทางรัฐจะเปิดให้ลงทะเบียน 2 ช่วงด้วยกัน คือช่วงแรกระหว่างเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤศจิกายน และช่วงที่สองคือช่วงปี 2566 ระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนกันยายน ดังนั้น เงินผู้สูงอายุ 2566 จึงเป็นเงินสวัสดิการผู้สูงอายุสำหรับคนที่พลาดรอบแรก ซึ่งก็ถือได้ว่าเงินผู้สูงอายุล่าสุด เป็นสวัสดิการที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะในประเทศไทยกำลังเข้าสู่ช่วงผู้สูงอายุจำนวนมาก อีกทั้งไม่ใช่ผู้สูงอายุทุกคนที่จะได้รับเงินบำนาญจากภาครัฐ และเอกชน ทำให้เงินเยียวยาผู้สูงอายุรอบล่าสุด เป็นอีกหนึ่งโอกาสที่คุณไม่ควรพลาดการลงทะเบียน และหากว่าคุณมีความสงสัยในรายะเอียดเกี่ยวกับโครงการนี้ นอกเหนือจากว่าเงินดังกล่าวคืออะไร คุณก็สามารถเช็คเงินผู้สูงอายุล่าสุดได้ในช่องทางออนไลน์ของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง

 

 

ตอบข้อสงสัย เงินผู้สูงอายุได้เท่าไหร่ 

หลังจากที่เราได้หายสงสัยกันแล้วว่าโครงการเงินผู้สูงอายุที่กำลังถูกพูดถึงกันอยู่นี้คืออะไร และมีความน่าสนใจมากน้อยเพียงใด บางคนอาจตั้งคำถามต่อมาว่าแล้วโครงการเงินผู้สูงอายุให้เงินกี่บาท หรือพูดอีกอย่างคือเบี้ยผู้สูงอายุได้เท่าไหร่ ซึ่งเท่าที่ไปติดตามรายละเอียดในเงื่อนไขของเงินสวัสดิการผู้สูงอายุมา พบว่าหากผู้สมัครโครงการเงินผู้สูงอายุมีอายุระหว่าง 60-69 ปี จะได้รับเงินเดือนละ 600 บาท ผู้สูงอายุที่มีอายุระหว่าง 70-79 ปี จะได้เงินผู้สูงอายุเดือนละ 700 บาท ผู้สูงอายุที่มีอายุระหว่าง 80-89 ปี ได้เงินเยียวยาผู้สูงอายุเดือนละ 800 บาท และผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 90 ปีขึ้นไป จะได้เงินเยียวยาผู้สูงอายุ 1000 บาท โดยการจ่ายเงินผู้สูงอายุจากทางรัฐนี้ จะเป็นการจ่ายให้กับผู้สูงอายุไปเรื่อย ๆ ทุกเดือน อนึ่ง สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าเงินผู้สูงอายุเข้าวันไหน หรือมีปัญหาเงินผู้สูงอายุไม่เข้าติดต่อที่ไหน ก็สามารถติดต่อสอบถามได้กับทางเจ้าหน้าที่รัฐตามหน่วยงานต่าง ๆ ได้เลย

 

 

เมื่อเงินผู้สูงอายุอาจไม่พอใช้ เราจึงต้องเริ่มวางแผนการเงินตั้งแต่วันนี้

สำหรับใครที่อยู่ในช่วงวัยกลางคน แล้วพิจารณาแล้วว่าเงินเยียวยาผู้สูงอายุหรือเงินผู้สูงอายุที่ตนเองจะได้รับหลังจากอายุครบ 60 ปีแล้วนั้น คงไม่พอใช้แน่ ๆ อีกทั้งในอนาคตข้างหน้าอัตราเงินเฟ้อก็คงพุ่งสูงกว่านี้ ดังนั้น เราอาจจะต้องมาจัดการวางแผนการเงินใหม่ โดยไม่ได้อาศัยเงินผู้สูงอายุใช้จ่ายเพียงอย่างเดียว ซึ่งเราสามารถแบ่งเงินออมมาลงทุนในกองทุนรวมประเภทต่าง ๆ ได้ตั้งแต่วันนี้ เช่น กองทุนรวมตราสารทุนในประเทศ กองทุนรวมตราสารหนี้ และกองทุนรวมผสม ซึ่งผลตอบแทนในระยะยาวแล้ว เชื่อว่าจะมากกว่าเงินสวัสดิการผู้สูงอายุอยู่มาก และถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เงินผู้สูงอายุใช้จ่าย แต่ก็อุ่นในได้ว่าเราจะไม่ลำบากในเรื่องสถานะการเงินอย่างแน่นอน โดยเฉพาะคนที่ลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้เงินปันผล ซึ่งก็เปรียบได้กับการได้เบี้ยผู้สูงอายุ หรือได้เงินสวัสดิการผู้สูงอายุในทุก ๆ เดือนนั่นเอง ฉะนั้น หากสนใจก็สามารถลงทะเบียนสมัครเปิดพอร์ตลงทุนในสินทรัพย์ที่เราสนใจได้เลย

Scroll to Top